Skip to content
Ducati Hypermotard 950

ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ได้มีการปรับมิติตัวรถใหม่ทั้งหมด Overhauled ergonomics ด้วยการนำแชสซีส์ใหม่มาใช้ซึ่งเป็นแชสซีที่ว่ากันว่าทันสมัย ultra-advance chassis รวมทั้งยังได้อัพเดท electronics package ใหม่

ซึ่งทำให้ตำแหน่งท่าทางการขับขี่ของ Hypermotard 950 ใหม่นี้ ช่วยให้ผู้ขับ
ขี่สามารถสนุกสนานเพลิดเพลินกับทุกจังหวะการขับขี่ ควบคุมรถได้อย่างเต็มสมรรถนะ รวมทั้งแฮนด์เดิ้ลบาร์ที่กว้างขึ้น ตัวรถมีความเพรียวมากขึ้น เบาะใหม่ที่มีส่วนให้สามารถเปลี่ยนท่าทางการขับขี่ได้อย่างมั่นคงมากขึ้น โดยตัวรถสามารถลดน้ำหนักต่ำกว่าเดิมถึง 4 กก. เฉพาะในส่วนของเครื่องยนต์ก็สามารถลดน้ำหนักลง ได้ถึง 1.5 กก. จากเฟรมใหม่, วงล้อใหม่, ดิสก์เบรกใหม่, โช้คอัพหน้าใหม่น้ำหนักเบาของ Marzocchi ที่เป็น aluminiumfork ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ ขนาด 937 ซีซี Testastretta11 twin ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดขนาด 9.8 kgm โดยแรงบิดกว่า 80% นั้นจะเริ่มส่งกำลังออกมาในช่วง 3,000 รอบ/นาที ซึ่งพร้อมสำหรับตอบสนองการขี่ได้อย่างสนุกสนาน ทั้งบนแทร็ค และเส้นทางถนนอันคดเคี้ยว รวมทั้งสภาพการจราจรในเมือง ขณะที่ในส่วนของระบบอิเล็คทรอนิกส์ที่เป็นหัวใจสำคัญของรถสมัยใหม่นั้น ได้ติดตั้งระบบควบคุมด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่กล่าวว่าเป็น ultra modern electronics ด้วยระบบประมวลผล จาก Bosch 6-axis Inertial Measurement Unit(6D IMU) ที่ประกอบด้วยระบบย่อยต่างอาทิ Bosch CorneringABS, Ducati Traction Control EVO, Ducati Wheelie Control EVO, Ducati uick Shift Up and Down EVO
(DQS นี้จะติดตั้งเป็นชุดมาตรฐานเฉพาะรุ่น 950SP) ที่กล่าวมานั้นเป็นพื้นฐานของ Hypermotard 950 ที่ Ducati ออกแบบมาให้เป็น รถในแบบ fun bike ที่ตอบสนองการขับขี่ที่สนุก ด้วย Racier, more adrenalin packed, more rider friendly สั้นๆ คือให้ความตื่นเต้นเร้าใจที่มากขึ้น ให้กลิ่นอายในแบบรถแข่งโมตาร์ด และมีความเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ ซึ่งหมายถึงควบคุมได้ง่ายนั่นเอง

โดยในเวอร์ชั่นมาตรฐาน Hypermotard 950 จะมาพร้อมกับโทนสี ducati Red
พร้อม Red frame กับ Black wheel rims ซึ่งจะใช้ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นฟอร์คของ Marzocchi forks แบบ fully adjustable ที่มีขนาดของ aluminium fork อยู่ที่ 45 มม.พร้อมระยะยุบตัว 170 มม. ส่วนโช้คอัพหลังนั้นเป็นแบบ adjustable ของ Sachs shock absorber ที่มีระยะยุบตัว 150 มม. เรือนไมล์เป็นหน้าจอแสดงผลแบบ colour TFT ขนาดความกว้างหน้าจอ 4.3 นิ้ว พร้อมกับไฟหน้าแบบ Daytime Running Light (DRL) โดยที่น้ำหนักของตัวรถอยู่ที่ 200 กก. ลดลงจากเดิม 4 กก. ส่วน เวอร์ชั่นพิเศษ Hypermotard 950SP นั้น จะมาพร้อมสี SP colour scheme พร้อมกับ red frame และ black wheel rims ซึ่งจะมีองค์ประกอบพิเศษหลัก คือ โช้คอัพหน้า Ohlins fork แบบ Fully adjustable ขนาด 48 มม. พร้อมระยะยุบตัว 185 มม. พร้อมกับกันสะเทือนหลัง Ohlins shock absorber แบบ fully adjustable ที่มีระยะยุบตัว 175 มม. โดยวงล้อเป็นแบบ Forged Marchesini wheels ร่วมด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ อย่าง front mudguard, belt covers ซึ่งตัวรถมีน้ำหนักอยู่ที่ 198 กก. ลดลงจากโมเดลเดิมสามกิโลกรัม

สรุปคือทั้งสองโมเดลใช้สเปคเครื่องยนต์พื้นฐานเดียวกัน คือ Testatretta11, L-Twin cylinder, 4valve per cylinder, Desmodromic, liquid cooled, magnesium head covers ที่มาพร้อมกับความจุ 937 ซีซี ให้กำลังขนาด 114 แรงม้า พร้อมแรงบิดขนาด 96 นิวตันเมตร กล่าวคือ สเปคพื้นฐานเดียวกัน ยกเว้น วงล้อ กับระบบกันสะเทือน และ ระบบอิเล็คทรอนิกส์บางอย่างเท่านั้นที่แตกต่างกันระหว่างสองเวอร์ชั่นนี้