Skip to content
HONDA X-ADV แอดเวนเจอร์สายพันธุ์ใหม่ ที่เร้าใจได้อีกขั้น พร้อมความสะดวกของเกียร์ DCT เพื่อนักขี่ที่ต้องการความแตกต่าง

ด้วยความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ของฮอนด้า ที่พัฒนาไปอีกขั้นในความชาญฉลาดจนสามารถที่จะติดตั้งระบบการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการทำงานของระบบคลัทช์แบบใหม่ที่คอยตัดต่อกำลังให้มีความต่อเนื่องนุ่มนวลโดยที่ไม่ต้องมีการสั่งจากผู้ขับขี่ คือระบบ Dual Clutch Transmission ตัวย่อคือ DCT นั่นเอง

เป็นระบบที่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ของรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ยกระดับขึ้นไปเหมือนกับระบบเกียร์ออโตเมติกของรถยนต์ด้วยการกดสั่งงานเพียงครั้งเดียว กลไกของระบบ DCT จะจัดการเปลี่ยนเกียร์ให้ทั้งขึ้นและลง ส่งความเร็วอย่างต่อเนื่องโดยไม่สะดุดในจังหวะการเพิ่มเกียร์สูงขึ้น และค่อยๆ ทดแรงบิดของเครื่องยนต์ออกมาเป็นเอนจิ้นเบรกอย่างนุ่มนวลในขณะลดเกียร์ต่ำลง ซึ่งนอกจากจะปล่อยให้รถคำนวณการใช้เกียร์เองแล้ว ยังสามารถสั่งเปลี่ยนเกียร์ได้ง่ายๆ ด้วยการใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งเพื่อเปลี่ยนเกียร์ได้ทุกขณะที่ต้องการได้อีกด้วย ซึ่งเทคโนโลยีของเกียร์ DCT นี้ได้บรรจุอยู่ในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์หลากรุ่นหลายสไตล์และเพื่อให้สื่อมวลชนสายรถจักรยานยนต์ได้เข้าถึงการทำงานของระบบเกียร์ DCT จึงได้มีการเชิญร่วมทดลองขับขี่รถฮอนด้าบิ๊กไบค์ถึง 4 รุ่นที่มีการติดตั้งระบบเกียร์แสนพิเศษนี้ นั่นคือ VFR1200X , CRF1000L , NC750X และรุ่นที่โดดเด่นที่สุดของงานก็คือ X-ADV แอดเวนเจอร์รูปแบบใหม่ที่เพิ่งปรากฏโฉมตัวจริงเป็นๆ ในงานบางกอกอินเตอร์เนชันแนลมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ก็นำมาให้สื่อมวลชนได้ทดลองกับขี่กันด้วย โดยใช้สนามชั่วคราวริมทะเลสาบเรือนแพ ชานเมืองกรุงเทพฯ เป็นสนามทดลองด้วยรูปแบบของทางดิน 100% ซึ่งโฟกัสที่โดดเด่นของการขับขี่ทดสอบในวันนั้น คงจะหนีไม่พ้น X-ADV ที่ทุกคนจะได้สัมผัสเป็นครั้งแรก

X-ADV Engine
เครื่องยนต์ของ X-ADV เป็นแบบ 4 จังหวะ 2 สูบ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ แต่ละลูกสูบมีขนาดความโต 77 มม. เคลื่อนที่ขึ้นและลงในกระบอกสูบด้วยระยะชัก 80 มม.ปริมาตรกระบอกสูบรวม 745 ซีซี ให้อัตราส่วนกำลังอัด 10.7:1 จ่ายเชื้อเพลิงสู่ห้องเผาไหม้ด้วยระบบหัวฉีด PGM-Fi ให้กำลังงานสูงสุด 68Nm ที่ 4,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 40.3kW ที่ 6,250 รอบต่อนาที เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งละ 4.1 ลิตร

X-ADV Transmission
ระบบส่งกำลังเป็นจุดเด่นที่ถูกกล่าวถึงมากพอๆ กับเครื่องยนต์ ด้วยความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีของระบบส่งกำลังแบบคลัทช์คู่ Dual Clutch Transmission ทำให้การขับเคลื่อนเกียร์ทั้ง 6 สปีดของ X-ADV นั้นสามารถทำได้ด้วยการสั่งงานครั้งแรกเพียงครั้งเดียว หลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ขณะอยู่ในเกียร์ว่างแล้ว เพียงกดปุ่ม D ที่ด้านขวาของแฮนด์ระบบจะเชื่อมต่อกำลังขับเคลื่อนพร้อมขับล้อ บิดคันเร่งรถจะทะยานออกไปและเมื่อถึงรอบที่กำหนดระบบจะเปลี่ยนเกียร์เพิ่มสูงตามความเร็วของรถที่เพิ่มขึ้นอย่างแม่นยำและแทบไม่มีจังหวะกระตุกของการตัดต่อกำลังให้รู้สึก ขณะที่หากความเร็วของรถต่ำลงระบบจะลดเกียร์ลงมาเพื่อให้สัมพันธ์กับการขับขี่โดยอัตโนมัติ หากต้องการอัตราเร่งที่กระฉับกระเฉงกว่าเดิมก็สามารถจะเพิ่มความเข้มข้นของกำลังด้วยการกดปุ่มสู่โหมด S ก็จะพบกับความจัดจ้านของเครื่องยนต์ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด และในโหมด S นี้ ก็ยังมีให้เลือกความแรงอีก 3 ระดับ เอาให้จุใจกันไปเลย ท่านที่คุ้นเคยกับระบบเกียร์ออโตเมติกในรถยนต์คงจะเข้าใจได้ไม่ยาก เรียกว่า DCT ทำให้เกียร์ของ X-ADV กลายเป็นเกียร์ออโตเมติกไปแล้วก็ว่าได้ ทำให้ X-ADV เป็นรถบิ๊กไบค์ที่ไม่มีทั้งมือคลัทช์และคันเกียร์ที่เท้าซ้ายความพิเศษของเกียร์ DCT ที่นอกจากจะเปลี่ยนเกียร์ให้เองแล้ว หากต้องการจะควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองก็สามารถทำได้ ด้วยการกดปุ่มที่สวิทช์ด้านซ้ายของแฮนด์ นิ้วชี้กดปุ่ม + เป็นการเพิ่มเกียร์สูงขึ้น นิ้วโป้งกดปุ่ม – เป็นการลดเกียร์ต่ำลง โดยที่ไม่ต้องยกคันเร่ง เอ็นจิ้นเบรกยังมีและมีการซับแรงให้เรียบร้อย ล้อหลังไม่ล็อคหรือกระตุกแรง ส่วนการเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้นการส่งต่อสุดแนบเนียนแทบไม่สูญเสียกำลังใดๆ เลย
X-ADV Suspension
เป็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่จัดหนักกับช่วงล่างเพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์แอนเวนเจอร์ ด้วยการติดตั้งโช้คอัพหน้าหัวกลับขนาด 41 มม. ที่สามารถปรับประดับความเร็วในการคืนตัว (Tension)ได้ถึง 3 ¼ รอบ (สแตนดาร์ดปรับมาที่คลายออก 2 รอบ) โช้คอัพหลังเดี่ยวพร้อมกระเดื่องโปรลิงค์ปรับความแข็งของสปริงได้มากถึง 10 ระดับ (สแตนดาร์ดปรับมาที่ระดับ 4 จาก S) ช่วงยุบจะมากกว่าบิ๊กสกู๊ตเตอร์ทั่วไปเพื่อความมั่นใจในการรูดและลุย เบรกหน้ามาเต็มด้วยทวินดิสก์เบรกขนาดใหญ่สไตล์เรซซิ่งเซอร์กิต คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกจานเดี่ยวที่มีกลไกของระบบปาร์คกิ้งล็อคกันรถไหลเมื่อจอดในพื้นที่ลาดเอียงมาให้ด้วย ดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลังติดตั้งระบบ ABS มาให้ทำงานแบบเต็มเวลา ยางหน้า 120/70 R17 ยางหลัง 160/60 R15 ใหญ่โตมโหฬารเพื่อรองรับแรงบิดมหาศาลจากเครื่องยนต์
X-ADV Dimension
น้ำหนักตัว 238 กก.เฟรมทำด้วยเหล็ก ความยาว 2,245 มม. ความกว้าง 910 มม. และความสูง 1,375 มม. ความสูงถึงเบาะ 820 มม. ถือว่าไม่น้อย ท้องรถห่างจากพื้น 162 มม. คาสเตอร์ 27 องศา ระยะเทรล 104 มม. ถังน้ำมันจุไม่มากไปแต่ไปได้ไกลมากแค่ 13.1 ลิตร เพราะอัตราบริโภคเชื้อเพลิงในคู่มือแจ้งไว้ที่ 27.5 กม./ลิตร สบายๆ
X-ADVenture
สู่ความเป็นตัวลุยสายแอดเวนเจอร์ที่เต็มตัวยิ่งขึ้นด้วยหลายจุดรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นวงล้อซี่ลวดแบบยิงขอบสำหรับใช้กับยางจุ๊บเลส แฮนด์บาร์ทรงกว้างพร้อมการ์ดแฮนด์ แผ่นบังลมหน้าขนาดใหญ่ที่ปรับระดับได้ตามความพอใจ แยกการเปิดเบาะและฝาถังทำให้เติมน้ำมันได้โดยไม่ต้องเปิดเบาให้ยุ่งยาก ใต้เบาะมีช่องเก็บสัมภาระอเนกประสงค์ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบได้ 1 ใบ พร้อมช่องเสียบชาร์ตไฟสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า ท่อไอเสียปลายยกสูง กรองอากาศพร้อมลุยน้ำท่วม การขับล้อด้วยโซ่ที่ทำให้ไปได้ทุกสภาพแม้จะเปียกลื่นเลอะเทอะก็ตาม การ์ดอลูมินัมกันแคร้งด้านหน้า ไฟหน้าและไฟท้าย LED ที่จับขนาดใหญ่ที่ท้ายรถ สั่งงานทั้งคันด้วยระบบกุญแจสมาร์ทคีย์ ไม่ต่องเสียบแค่พกติดตัวไปก็ได้ไปไหนไปกัน

แผ่นบังลมขนาดใหญ่ปรับได้ด้วยมือเปล่า

โช้คหน้าปรับความหนืดได้ที่ปลายบนด้านขวา

สมาร์ทคีย์ไม่มีที่เสียบกุญแจแค่หมุนเอา

แฮนด์การ์ดอุปกรณ์มาตรฐานติดรถ

นอกจากสัญญาณไฟ ด้านซ้ายยังมีสวิทช์เปลี่ยนเกียร์ในโหมดแมนนวล

สวิทช์สตาร์ทเครื่องและเข้าเกียร์ N-D-S อยู่ด้านขวา

เติมน้ำมันไม่ต้องเปิดเบาะ

พักเท้าคนซ้อนกว้างใหญ่พับเก็บกลมกลืน

ใต้เบาะใส่หมวกได้หนึ่งใบกับมีช่องเสียบชาร์ตไฟฟ้า

สวิงอาร์มยาวพิเศษกับระบบขับแบบใช้โซ่

กันแคร้งอลูมินัมป้องกันเบื้องล่าง

ดิสก์เบรกหลังเดี่ยวพร้อมระบบปาร์คกิ้งล็อค

บั้นท้ายไล่ระดับกับดีไซน์ล้ำสมัย


นับเป็นตัวเลือกใหม่ของนักขับขี่ที่ต้องการความสะดวกสบายในการควบคุม ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ภาพลักษณ์ใหม่ดีไซน์ล้ำ พร้อมเทคโนโลยีล่าสุดที่จะยังไม่เชยไปอีกหลายปี ด้วยราคา 415,000 บาท สอบถามรายละเอียดการจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ฮอนด้าบิ๊กวิงทุกสาขาทั่วประเทศ