Skip to content
All New Benelli Leoncino

เป็นอีกหนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่หลายต่อหลายคนกำลังรอคอย ด้วยการออกแบบที่ลงตัว กับเจ้า All New Benelli Leoncino เราจะได้เห็นมันวิ่งกันบนท้องถนนจริงๆ ซะที หลังจากที่ได้เห็นกันทางโซเชียลกันอย่างมากมาย Benelli Leoncino (อ่านว่า ลีออนชิโน่ เป็นภาษาอิตาลี แปลว่า ลูกสิงโต) สำหรับโมเดลปัจจุบันจะมาในรูปแบบของรถแนวสแครมเบิ้ลอย่างเต็มตัว ที่เรียกได้ว่าพร้อมจะลุยในทุกสภาพถนน โดยสเปคและรายละเอียดอย่างเป็นทางการทั้งหมดของโมเดลในปัจจุบันนั้นก็คือ เครื่องยนต์ของ Benelli Leoncino นั้นจะอยู่ที่ 499.6 ซีซี 4 จังหวะ มีจำนวนกระบอกสูบนั้นเป็นแบบ 2 สูบเรียง ให้แรงม้ามาที่ 47 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที และทอร์คนั้นให้มาสูงสุดที่ 45 Nm ที่ 4,500 รอบ/นาที จะเห็นได้ว่าทอร์คของรถนั้นหนักมากในย่านความเร็วแค่ในช่วงกลางๆ นิสัยของรถน่าจะเป็นแบบบิดติดมือ มีหงายเงิบกันบ้างแบบไม่ต้องกังวลในเรื่องรอบเลย แต่ความเร็วปลายนั้นอาจจะไม่ได้ไหลลื่นมากนัก ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ส่งกำลังสุดท้ายด้วยโซ่ ซึ่งทั้งหมดนี้ผ่านมาตรฐาน Euro 4 เรียบร้อยแล้ว

ตัวเฟรมรถจะเป็นแบบเฟรมเหล็กถัก ซึ่งจะให้บาล้านซ์ในการขับขี่ที่ดี และมีน้ำหนักตัวเบา สร้างความมั่นใจในการคอนโทรลรถอย่างเต็มที่ ไฟด้านหน้ารถเป็นแบบ LED แต่ดีไซน์ออกแบบมาด้วยทรงกลมผสมผสานกับตัวรถที่มีกลิ่นอายของความเป็นยุคคลาสสิคอย่างเต็มตัว ในส่วนของระบบช่วงล่างนั้น เบรกหน้าเป็นแบบดิสก์คู่ขนาด 320 มม. และเบรกหลังเท่ากับ 260 มม. แบบดิสก์เดี่ยว ทำงานร่วมกับระบบ ABS โช้คอัพนั้นด้านหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิคหัวกลับ หรือ Upside Down ที่ซับแรงสะเทือนได้ดีกว่าปกติ และด้านหลังเป็นโมโนโช้ค ยางหน้ามีขนาดเท่ากับ 110/80 R19 และยางหลังเท่ากับ 150/70 R17 เป็นยางแบบหนามซึ่งเหมาะสมกับการนำไปลุยในสภาพถนนที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะทางฝุ่น ทางดิน ส่วนล้อหน้าใช้ขนาด 19 นิ้ว หลัง 17 นิ้ว เป็นล้อแบบซี่ลวดที่มีความยืดหยุ่นรองรับการกระแทกหนักๆ ได้ดีกว่าล้อแม็ก มิติของตัวรถนั้นยาว 2,100 มม. กว้าง 800 มม. และสูง 1,160 มม. ความสูงเบาะเท่ากับ 815 มม. ในขณะที่น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 170 กก. และถังน้ำมันจุอยู่ที่ 15 ลิตร เรียกได้ว่าเดินทางออกทริปกันได้สบายๆ

ไบค์เกอร์สายลุยเตรียมตัวนับถอยหลังรอได้เลย จากนี้ไปอีกไม่นานนักทางค่ายจะเปิดตัวกันอย่างเป็นทางการ และก็มีโอกาสสูงมากๆ ที่จะเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา ตามรอย TRK 502 ที่เพิ่งจะเปิดตัวกันไปก่อนหน้านี้ไม่นาน